เจ้าของความรู้ นายชาญณรงค์ จิรขจรกุล
หมายเลขโทรศัพท์
054-829768
ที่ติดต่อ
ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง
83 หมู่ 10 ตำบล ปงแสนทอง อำเภอ เมือง
จังหวัด ลำปาง 52100
ความเป็นมา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ข้าพเจ้าเข้ารับตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์
ประจำศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง
ได้ขับรถยนต์ไปราชการต่างจังหวัดในหลายต่อหลายครั้ง ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
โดยสังเกตเห็นสัญญาณเตือนข้างทางทั้งที่เป็นวัตถุมองเห็นได้ชัดเจนกับสัญญาณไฟจราจรต่างๆมากมาย
ซึ่งสัญญาณเหล่านี้สำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนคงทราบกันดี
แต่คงยังมีสัญญาณไฟจากรถยนต์ที่มีบางท่านยังไม่เข้าใจว่าในแต่ละครั้งนั้นที่มีการส่งสัญญาณมาหมายความว่าอย่างไร
ในบางครั้งหากเราไม่เข้าใจแล้วนั้น อาจทำให้เกิดอันตรายต่อทรัพย์สินหรือชีวิตได้
แต่ถ้าเราเข้าใจสัญญาณไฟเหล่านั้นก็จะทำให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนมากขึ้น
วิธีการสังเกตง่ายๆจะมีบอก 2 จุด คือ
ไฟหน้าและไฟเลี้ยว โดยมากจะเตือนอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องด่านตรวจต่างๆ
2.อุบัติเหตุหรือมีสิ่งกีดขวางการจราจร ซึ่งถ้าเข้าใจการสังเกตสัญญาณไฟก็จะเข้าใจถูกต้องไม่ยากเลย.....โดยมากที่เห็นได้ตามท้องถนน
มีดังนี้
1.เปิดไฟ
ซ้ายที-ขวาที สลับกันไป
ซึ่งมักพบกับรถทุกประเภท ให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
เพราะมีการเบรกกะทันหันหรือข้างหน้าอาจจะมีอุบัติเหตุ เมื่อพบสัญญาณไฟลักษณะนี้ไม่ควรแซง
เพราะอาจจะมีสิ่งกีดขวาง
2. เปิดไฟ
เลี้ยวซ้ายแล้วชะลอความเร็ว สัญญาณนี้
คือ สามารถแซงขวาได้ ส่วนมากจะพบในถนน 2
เลนสวนกัน แต่ก็ต้องดูความปลอดภัยเองด้วย
รวมถึงสังเกตว่าเขาจะจอดรึเปล่าโดยปกติแล้วถ้ารถจะจอดจะชิดขอบทางด้านซ้ายทันทีพร้อมเปิดไฟเลี้ยวซ้าย
3.เปิดไฟ
เลี้ยวขวา ถ้าพบสัญญาณไฟนี้อยู่บนถนนทางหลวงนั้น หมายถึง การขอทางเพื่อแซงรถคันหน้า
ซึ่งหากเป็นเราขับจะให้หรือไม่ให้แซงนั้นควรดูความเร็วและระยะทางความห่างของรถเรา
แต่หากเจอรถ 10 ล้อเปิดไฟนี้ควรที่จะชะลอทันที เพราะเขาจะแซงออกมาทันที
และหลังจากนั้นเราจะแซงเขาจะเปิดไฟเลี้ยวซ้ายก็แสดงว่าทางสะดวกเราแซงได้
4.ขับรถสวนกันแล้วรถฝั่งตรงข้ามกระพริบไฟ
2 ที หรือ ปิด-เปิดไฟหน้า
ในตอนกลางคืน ควรชะลอความเร็วทันทีเพราะสัญญาณนี้อาจจะมีอุบัติเหตุข้างหน้าเรา
โดยสัญญาณนี้จะใช้กันในระยะไม่เกิน 500 เมตรถึง 1 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ
5.กระพริบไฟหน้าพร้อมเปิดไฟเลี้ยวขวา
เป็นการบอกว่ามีด่านตรวจอยู่ด้านหน้าเรา
6.ในตอนเวลาเรากลับรถ
รถที่ขับสวนมากระพริบไฟให้เรา 1 ที (
ส่วนมากเข้าใจผิดกับสัญญาณนี้ทั้งผู้ใช้และผู้สังเกต
) หมายถึง ทางสะดวกกลับรถได้เลย สัญญาณนี้เป็นมาตรฐานสากลใช้กันทั่วโลกแต่ถ้ากระพริบไฟ 2 ที หรืออาจบีบแตรด้วย แสดงว่า
ไม่อนุญาตให้กลับรถเพราะเขาอาจจะขับรถมาด้วยความเร็วสูง
7.ขับรถสวนกันแล้วกระพริบไฟ
1 ที เป็นการสอบถามความสะดวกในการขับขี่ทางข้างหน้า
เช่น ด่านตรวจและเป็นการทักทายหรือตรวจสอบคนขับรถในคันที่สวนมา
ว่าง่วงนอนหรือจะมรอาการหลับในหรือเปล่า ถ้าไม่มี ให้เรากระพริบไฟตอบ 1 ที
หมายถึง ทางสะดวกและเพื่อเป็นการทักทายไม่มีอะไรมาก
8.ในเลนสวนกัน
พบรถช้าและคันที่ 2 ในขบวนกระพริบไฟแล้วเบนหัวออกลักษณะนี้ให้ชะลอความเร็วและชิดไหล่ทางทันที
เพราะรถคันที่ให้สัญญาณดังกล่าวกำลังจะแซง ซึ่งเขาจะไม่รอช้าให้คุณผ่านไปก่อน
ควรจะหลบเข้าข้างทางเสียเพื่อความปลอดภัย
9.ในเลนสวนกัน
รถเปิดไฟเต็มดวงแล้วกระพริบไฟขณะแซง แสดงว่า
เขาลากเพื่อนมาด้วย คือ อาจจะมีรถตามมาด้วย 4-5 คัน
เราก็ควรที่จะชะลอความเร็วลงไหล่ทางเหมือนกัน บางครั้งอาจหมายถึงแซงทั้งขบวนควรระวังให้ดี
สัญญาณเหล่านี้
เป็นเพื่อนร่วมทางมักให้สัญญาณในกรณีต่างๆบนท้องถนน
ซึ่งการกระทำเหล่านี้มีประโยชน์มากในการใช้ทางร่วมกันในยามขับขี่รถยนต์หรือเดินทางไกลไปต่างจังหวัด
ทำให้เกิดความสุขในระหว่าการขับขี่และเกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ช่วยแลกเปลี่ยนด้วย..