เจ้าของความรู้ : นายธาดา ธีระวาทิน
นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ
นักทรัพยากรบุคคลที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนแต่ละแห่งมีบทบาทหน้าที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ทั้งงานการพัฒนาและจัดทำหลักสูตร การบริหารโครงการฝึกอบรม การเป็นวิทยากรกระบวนการ การบริหารจัดการองค์ความรู้ และ ฯลฯ ซึ่งแต่ละบทบาทหน้าที่มีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น
แต่การช่วยเหลือและสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์สำนักงานก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นอิเล็คทรอนิกส์
เช่น คอมพิวเตอร์สำนักงาน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่ปัญหาในการใช้งานเกิดขึ้นเป็นประจำ อาจจะเกิดจากการไม่เข้าใจในตัวระบบ หรือการไม่เข้าใจในตัวอุปกรณ์ จึงขอนำเสนอ "เทคนิคการบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์สำนักงานให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
วิธีการบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์สำนักงานให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
- ด้านอุปกรณ์ (HARDWARE)
1.
ศึกษาและทำความเข้าใจถึงหลักการระบบคอมพิวเตอร์เบื้องต้นทั้งด้านฮาร์ดแวร์
และซอฟท์แวร์ (หาหนังสือหรือบทความทางอินเตอร์ได้
มีบทความย่อๆ มากมาย)
2. ดูแลและทำความสะอาดอุปกรณ์
ฮาร์ดแวร์เป็นประจำทุกวัน (ฝุ่นละออง
ความสกปรก
และความร้อนเป็นปัญหาใหญ่ของคอมพิวเตอร์)
โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสบู่อ่อนๆ เช็คหน้าจอคอมพิวเตอร์ เคส
คียบอร์ด เมาส์ และเครื่องปริ๊นเตอร์
3.พยายามเปิดเครื่องทุกวัน
หมั่นสังเกตความผิดปกติ โดยเฉพาะเครื่องปริ๊นเตอร์ ควรจะเปิดและพิมพ์ทุกวันเพื่อให้กลไกได้ทำงาน
4.เปิดเคสทำความสะอาดฝุ่นด้านใน สัก 3 เดือน /
ครั้ง
เพราะฝุ่นละอองจะทำให้เกิดความร้อนและเกิดผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยเตรียมยางลบไว้ทำความสะอาด RAM (หน่วยความจำ) และเตรียมแปรง
พร้อมผ้าสะอาดไว้เช็ดฝุ่นและความสกปรกที่เกิดขึ้น
- ด้านโปรแกรม (SOFTWARE)
1. ควรใช้ระบบปฏิบัติการ
Window ของแท้
2.ถ้าใช้ระบบปฏิบัติการไม่ถูกลิขสิทธิ์ ควรหลีกเลี่ยงการอัพเดทซอฟท์แวร์
และอาจจะต้องมีการล้างเครื่อง และลงระบบปฏิบัติการบ่อยครั้งขึ้น
3.ควรลงตัวสแกนไวรัสติดเครื่องไว้ 1 ตัว (ไม่ควรลงเยอะ)
มีของฟรีให้ดาวน์โหลดมาใช้ แต่อาจจะป้องกันได้ไม่ครอบคลุม (ดีกว่าไม่มี)
4.ไม่ควรนำแฟลซไดร์ฟที่มีความเสี่ยงมาเสียบกับคอมพิวเตอร์ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ส่งไฟล์ผ่านทางอีเมล์
หรือทางช่องทางการฝากไฟล์อื่นๆ
(เพราะจะมีการสแกนลดความอันตรายให้เราได้ระดับหนึ่ง)
5.ไม่ควรลงโปรแกรมที่มีความเสี่ยง
(มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ)
6.ควรหลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซด์อันตราย
เช่น เว็บลามกอนาจาร
ลิงค์ที่มีความเสี่ยงในเฟสบุ๊ค
ไลน์ และ ฯลฯ
4.ไม่ควรนำแฟลซไดร์ฟที่มีความเสี่ยงมาเสียบกับคอมพิวเตอร์ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ส่งไฟล์ผ่านทางอีเมล์
หรือทางช่องทางการฝากไฟล์อื่นๆ
(เพราะจะมีการสแกนลดความอันตรายให้เราได้ระดับหนึ่ง)
5.ไม่ควรลงโปรแกรมที่มีความเสี่ยง
(มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ)
6.ควรหลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซด์อันตราย
เช่น เว็บลามกอนาจาร
ลิงค์ที่มีความเสี่ยงในเฟสบุ๊ค
ไลน์ และ ฯลฯ
ฝุ่นละออง
ความสกปรก ความร้อน
เป็นปัจจัยหลักในการสร้างปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ให้กับคอมพิวเตอร์ ส่วนไวรัส
สปาย์แวร์ มัลแวร์ เป็นสิ่งที่ทำให้ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมของเครื่องมีปัญหาได้ นอกจากการใช้เป็นประจำทุกวันแล้ว ควรมีการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี
เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานพร้อมจะทำงานกับเราได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าเกิดสถานการณ์ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา
ควรมีช่างประจำที่เราสามารถโทรหรือติดต่อสื่อสารเพื่อถามข้อมูลและแก้ไขปัญหาได้ไว้บ้างก็ดีนะครับ