วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

บทอำลาข้าราชการธรรมดาสามัญผู้เกษียณอายุราชการ


ลาที่ มิใช่ลาก่อน ; บทอำลาข้าราชการธรรมดาสามัญผู้เกษียณอายุราชการ


            ตลอดเวลาในการทำงานสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน ผมรู้สึกว่าวันคืนที่นี่ผ่านไปเร็วมาก  วันหนึ่งผมก็รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องกล่าวคำอำลาเวทีแห่งนี้กับคนรอบข้างอย่างเป็นทางการเมื่อวันเกษียณอายุราชการของผมมาถึง  ชีวิตในสำนักงานและงานภาคสนามที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่ผมได้เลือกมาอยู่ทำงานระหว่างที่นี่กับจังหวัดน่านอีกจังหวัดหนึ่ง ขณะที่ทำงานในส่วนกลางกรุงเทพนั้น ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังเลย แม้แต่น้อย

            ที่เชียงราย ผมสัมผัสได้กับความสุขความอบอุ่นที่พอจะรู้สึกได้ ด้านหนึ่งเพราะผมยังมีเพื่อนร่วมงาน มิตรสหายที่ดีอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีระบบของเจ้านายคอยร่วมทำงาน ซึ่งบางครั้ง หรือในอดีต  คนเหล่านี้ก็ร่วมฝันกับผมบ้าง ปฏิเสธความฝันผมบ้าง มีปฎิกริยาที่รุนแรงต่อผมบ้าง ผมก็ไม่ว่าอะไร  ประการต่อมา อากาศ บรรยากาศสิ่งแวดล้อมที่เชียงรายช่างเป็นใจ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย สนุก ได้พบหาผู้คน มีเวลาอ่านหนังสือดีๆ ออกกำลังกาย ท่องเที่ยว  ตื่นตัวพร้อมทำงานท้าทายตามสไตล์ของผมบ้างหรืออย่างบูรณาการร่วมกันบ้าง  ที่สำคัญทำให้ผมมีโอกาสทำงานช่วยเหลือ แบ่งปันแรงกาย ความรู้ความสามารถที่พอจะมีแก่ผู้อื่นในสังคมนี้ได้
            ผมยังมีความหวังอยู่เช่นเดิมว่า คนอื่นๆที่ยังคิดเหมือนผมบ้าง และต่างบ้าง หากยังไม่ท้อแท้และหยุดคิดเรื่องการทำงานร่วมมือกันแบบจริงจัง แบบมองเห็นอนาคตของสังคมส่วนใหญ่  คงทำให้สังคมนี้มีความสงบสุข น่าอยู่ยิ่งขึ้น
            ประมาณ ๓๐ ปีของการทำงานเยี่ยงข้าราชการธรรมดาสามัญชั้นผู้น้อย เมื่อถึงวันนี้ผมก็พอใจแล้ว  เพราะผมลองคิดเชิงทุนทางสังคมถึงสิ่งที่ผมได้รับจากหน่วยงานและจากสังคมนี้ซึ่งได้ส่งมอบให้ผม  ทั้งแบบตั้งใจและมิได้ตั้งใจก็ตาม ก็นับว่ามีมากกว่าที่จะตีราคาเป็นเงินได้  ดังนั้นผมจึงไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนอีกหลายคน  ที่ผ่านมาการทำงานของผมไม่มีอำนาจพิเศษคอยช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ผมได้รับจนสรุปได้เป็นความพอใจได้นั้น บางทีอาจเป็นเพราะ ผมยังมีความเชื่อเรื่องความดีงาม ความซื่อสัตย์ยุติธรรมอยู่บ้าง  หรืออีกด้านหนึ่ง อาจเป็นเพราะผมมีความกล้าหาญพอที่จะแสดงตัวตน และจุดยืนเชิงสังคม แม้บ่อยครั้งต้องผ่านประสบการณ์ที่เจ็บปวดผมก็อดทนได้ อย่าตำหนิผมเลยนะแม้ว่าที่ผ่านมาท่านจะเห็นพฤติกรรมแปลกๆของผมบ้าง  เพราะผมถูกฝึกให้รู้จักการช่วยเหลือตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าคิดถึงการพึงพาผู้อื่น หยิ่งในศักดิ์ศรี  ด้วยบรรพบุรุษของผมก็พร่ำ สั่งสอนผมไว้
            ความรู้สึกสุข หรือทุกข์ใดๆของผมในวันนี้ หากจะมีแบบใดในวันพรุ่งนี้   ไม่มีใครคอยจัดให้เป็นพิเศษ นอกจากคิดว่าได้พยายามทำงานหนักเพื่อการพัฒนาตัวเองก็เท่านั้น ผมเห็นสิ่งท้าทายข้างหน้าอยู่ตลอดเวลาในการทำงานช่วยเหลือตนเองโดยไม่ต้องพึงพาคนอื่นมากนัก  และหากมีพลังเหลือเฟือก็ไม่เคยลืมแบ่งปันให้คนอื่น หรือด้อยโอกาสกว่าผมในสังคมนี้ การใช้ชีวิตในองค์กรนี้ บางทีผมรักจะค้นหาว่า หน่วยงานมีอะไร หรือช่องทางไหนที่ผมจะช่วยหน่วยงานได้บ้าง มากกว่าที่จะคอยคาดหวังอะไรมากมายจนเกินความเข้าใจตัวเอง
            อีกครั้ง ขอขอบคุณน้องๆ หรือพี่ตามลำดับความดีที่ผมนิยามเรียก ถึงเวลาลาโรงสำหรับผมแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่ผมจะขออโหสิจากท่านอีก เพราะปรกติผมไม่คิดร้ายใครจึงคิดว่าไม่จำเป็น อีกทั้งผมไม่ต้องการขอบคุณอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ไม่ต้องการขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นักการเมืองหรือผู้ใดเป็นพิเศษ
            แต่ขอขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ผู้ร่วมอุดมการณ์ ผู้ร่วมสุขและร่วมทุกข์ในการทำงานที่จังหวัดเชียงราย  หรือที่อื่นๆก็ตาม  ที่ทำให้เราได้พบกัน เข้ามาสัมพันธ์เกี่ยวข้องและได้เรียนรู้กันด้วยภาระหน้าที่การงานครั้งหนึ่ง   ขอสัญญาว่าที่ชีวิตที่เหลือ จะยาวหรือสั้นก็ตาม  นับจากวันพรุ่งนี้ เราจะช่วยกันดูแลสังคมให้เหมือน หรือเท่าๆกับที่เราพยายามทำกับตัวเราต่อไป  คิดถึงผมบ้างบางเวลา ดูแลสุขภาพของท่านและคนข้างเคียงและสู้ต่อไปกับงานหนักที่รออยู่ข้างหน้า

                                                                                                 ขอคารวะด้วยรักและนับถือ
บุญส่ง เวศยาสิรินทร์  ณ วันศุกร์ที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
บ้าน: ๑๐๗ หมู่ ๖ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โทร. ๐๕๓-๕๖๐๒๔๓, ๐๘๖-๗๒๘๓๗๖๑