วันนี้
ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง มีโอกาสต้อนรับนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลขัวมุง พ่อมนัส
เศรษฐเสถียร ( อดีตกำนันตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่และประธานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตแห่งแรกของประเทศไทย..)
ท่านมาเยี่ยมให้กำลังใจผู้นำ/แกนนำชุมชนตำบลขัวมุง ที่มาอบรมหลักสูตรผู้นำการพัฒนา
ที่ศูนย์ฯลำปาง ระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤษภาคม 2555 ..
มีเรื่องเล่ามากมาย..จากประสบการณ์ของพ่อมนัส ที่ถือเป็นประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า..ที่พ่อมนัสได้ร่วมทำงาน
ร่วมอุดมการณ์..กับกรมการพัฒนาชุมชนตลอดมา..
และหนึ่งในที่สุดของความภาคภูมิใจ
ที่ผู้เขียนมีโอกาสได้บันทึกเรียบเรียงไว้คือ พระราชกรณียกิจ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ ศูนย์สารภี ต.ขัวมุง อ.สารภี
จ.เชียงใหม่ ระหว่างปีพุทธศักราช 2518 - 2521
ความเป็นมา..ของศูนย์สารภี..
กรมการพัฒนาชุมชน
กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย
ได้จัดรูปแบบโครงการสารภี มาทดลองดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนในชนบท
ในท้องที่ตำบลสารภี อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน เทคนิค และเงินทุนประกอบอาชีพ
ปัญหาสุขภาพและอนามัย มุ่งพัฒนาโดยเน้นหนักด้านเศรษฐกิจการเกษตร
เพื่อยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เพิ่มผลผลิต
และปรับปรุงวิธีการผลิตให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น โดยเริ่มทดลองดำเนินการตั้งแต่ปี
พ.ศ.2508 และประสบผลสำเร็จพอสมควร
ต่อมาในปี พ.ศ.2515
กรมการพัฒนาชุมชนได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิการศึกษาและประชาสงเคราะห์
ได้นำรูปแบบโครงการสารภีมาขยายผล โดยคัดเลือกท้องที่จัดตั้งศูนย์สารภีขึ้น
ที่บ้านหัวดง หมู่ที่ 6 ตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
ใช้ที่ดินซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ เนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 57 ตารางวา
สร้างอาคารถาวรในศูนย์ฯ จำนวน 4 หลัง บ้านพัก 1 หลัง
ระยะแรกดำเนินการในลักษณะศูนย์ช่วยเหลือ แนะนำ และสาธิตด้านวิชาการและการปฏิบัติ
เน้นการเกษตรและสาธิตการเลี้ยงสัตว์ ต่อมาเพิ่มบทบาทในลักษณะศูนย์กลางบริการทางวิชาการ
และศูนย์กลางในการปกครองและพัฒนาของตำบล
จากบทบาทภารกิจของศูนย์สารภีในสมัยนั้น
สร้างผลงานและชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบล อำเภอ
และจังหวัด
ทั้งในด้านการฝึกอบรมให้ความรู้ แหล่งสาธิต แหล่งศึกษาดูงาน เช่น
การทำเต้าเจี้ยว ทำน้ำปลา การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงหมู การตัดเย็บเสื้อผ้า ฯลฯ ทำให้เป็นที่สนใจของราชสำนัก
โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เลขาราชสำนัก
ได้มาประสานข้อมูลกิจกรรมของศูนย์สารภี
จากนายนวล ชื่นดวง พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ในสมัยนั้น และนำข้อมูลของศูนย์สารภี ถวายรายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งได้รับความสนพระทัยจากพระองค์ท่านเป็นอย่างมาก และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้สมเด็จพระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ณ
ศูนย์สารภี
กำนันมนัส เศรษฐเสถียร กำนันตำบลขัวมุง พร้อมราษฏรในตำบลเข้าเฝ้ารับเสด็จและกล่าวถวายรายงานต่อสมเด็จพระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
สมุดเซ็นเยี่ยมที่ทรงลงพระปรมาภิไธย
ในการมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
นายมนัส เศรษฐเสถียร กำนันตำบลขัวมุง และข้าราชการในพื้นที่กล่าวถวายรายงานต่อ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ณ ตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
พระราชกรณียกิจ ณ ศูนย์สารภี..ตำบลขัวมุง ปีพุทธศักราช 2519
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จทอดพระเนตรกิจกรรมของศูนย์สารภี ในวันที่ 28
มกราคม พ.ศ.2519 กำนันมนัส เศรษฐเสถียร
ถวายรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์สารภีและนำเสด็จพระราชดำเนินรอบๆบริเวณศูนย์ฯ
กำนันมนัส เศรษฐเสถียร กำนันตำบลขัวมุง พร้อมข้าราชการในพื้นที่ เข้าเฝ้ากล่าวถวายรายงานผลการดำเนินงานศูนย์ฯ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
กำนันมนัส เศรษฐเสถียร กำนันตำบลขัวมุง พร้อมข้าราชการในพื้นที่ เข้าเฝ้าถวายรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ
|
นายสวงค์ วงศ์สิทธิ์ พัฒนากรประจำตำบลขัวมุงและกำนันมนัส เศรษฐเสถียร
ถวายรายงาน การดำเนินกิจกรรมภายในศูนย์สารภีต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ในครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมีพระราชดำรัสให้ราษฎรซึ่งเป็นเกษตรกรที่มารับเสด็จ
ได้ทดลองปลูกสตอเบอรี่ในพื้นที่ตำบลขัวมุงเป็นครั้งแรก แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมและฟางข้าวที่ใช้ปกคลุมแปลงสตอเบอรี่มีพวกปลวกมาอาศัยกัดกินเป็นจำนวนมาก
ทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จในการปลูกสเตอเบอรี่ที่ตำบลขัวมุง ในปี พ.ศ.2520 ได้มีการเปลี่ยนพื้นที่ทดลองปลูกสตอเบอรี่ไปที่ตำบลช่างเคี่ยน
อำเภอเมืองเชียงใหม่แทน ...
พระราชกรณียกิจ ณ ศูนย์สารภี..ตำบลขัวมุง ปีพุทธศักราช 2520
วันที่ 20
กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เสด็จศูนย์สารภี และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ตำบลขัวมุง
-
ทรงเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่บริเวณวัดขัวมุง และทรงตรัสถามกำนันมนัสว่า
ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขึ้นมาเพื่ออะไร
เมื่อกำนันตอบในหลวงว่าเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครองได้มีโอกาสทำมาหากิน..พระองค์ตรัสว่า
“เท่านี้ไม่พอหรอก..ต้องลึกกว่านั้น เพราะเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว
ถ้าเอาสีดำมาจุด ก็จะเป็นสีดำ..ฝากไว้ด้วย ”
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
มีพระราชดำรัสแนะนำเรื่องการดูแลรักษาดินให้ราษฎรตำบลขัวมุง ซึ่งปลูกกระเทียมกันเต็มพื้นที่ว่า..การปลูกกระเทียมทุกปีและใส่ปุ๋ยเคมีด้วยนั้น ทำให้ดินแข็ง...จะต้องเปลี่ยนไปปลูกพืชถั่วสลับบ้าง
เพื่อปรับสภาพดินให้ดีขึ้น..
นายนวล ชื่นดวง พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่และคณะข้าราชการ
นำเสด็จพระราชดำเนินบริเวณรอบศูนย์สารภี เพื่อทรงทอดพระเนตรงานและกิจกรรม
ของศูนย์ที่ได้ทรงพระราชดำรัสไว้เมื่อปีที่ผ่านมา
ศูนย์สารภี..ตำบลขัวมุง ปีพุทธศักราช 2520
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2521
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ศูนย์สารภีอีกครั้งหนึ่ง ..ทรงพระดำเนินไปวัดขัวมุง และเมื่อทอด พระเนตรเห็นต้นยางต้นใหญ่ที่วัดมีฝูงผึ้ง มาทำรังกว่าเจ็ดสิบรัง ทรงตรัสถามกำนันมนัสว่า “เอาผึ้งไปไหน” เมื่อทรงทราบว่าทางกรรมการวัดให้คนมาเอาผึ้งขายทุกปี ในหลวงตรัสว่า
“เขาหนีจากข้างนอกมาอยู่วัด ยังฆ่า
เขาอีกหรือ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีการทำร้ายผึ้งในวัดขัวมุงอีกต่อไป จนถึงทุกวันนี้..ต้นยางต้นนี้ได้ชื่อว่าเป็นต้นยางที่สูงเป็นอันดับที่สามของประเทศและมีฝูงผึ้งมาทำรัง อาศัยอยู่เป็นประจำทุกปี....
หม่อมหลวงภีศเดช รัชนี, กำนันมนัส เศรษฐเสถียร และคณะข้าราชการในพื้นที่นำเสด็จพระราชดำเนินชมกิจกรรมและรับฟังผลการดำเนินของศูนย์สารภี
นายสม
วุฒิ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 นายนา ยานวงศา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9
และเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม และเกษตรกรในพื้นที่ ถวายกระเทียม
ในพื้นที่ตำบลขัวมุงถวายกระเทียม ให้ในหลวงฯ
ให้ในหลวงฯ
มองศูนย์สารภี..ในวันนี้..
( 28 มกราคม 2552 )
ปัจจุบัน..ศูนย์สารภีถูกแบ่งเนื้อที่ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลขัวมุงเพื่อสร้างเป็นอาคารที่ทำงานของอบต.ขัวมุง แต่การบริหารจัดการของศูนย์สารภียังคงอยู่ในการกำกับดูแลของกรมการพัฒนาชุมชน
โดยมีนายพิเชษฐ์ ภักดีเป็นนักการภารโรงอยู่ 1 ตำแหน่ง.. ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการคงอยู่ของกิจกรรมในศูนย์สารภี
เนื่องจากเป็นอดีตผู้นำเยาวชนของตำบลขัวมุง ที่ได้เข้ารับการพัฒนาและทำกิจกรรมในศูนย์สารภี
จนมีความรักความผูกพันในงานพัฒนาชุมชน
อีกทั้งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญสามารถเป็นวิทยากรให้คำแนะนำส่งเสริมอาชีพการเกษตรให้กับผู้สนใจทั่วไป
ทั้งเรื่องการเพาะเห็ดฟาง การเลี้ยงหมู การเลี้ยงไก่สามสายพันธุ์ การทำก๊าซชีวภาพ
ฯลฯ..
ผู้ให้ข้อมูลและเอื้อเฟื้อภาพประกอบ...1.นายมนัส เศรษฐเสถียร
ศูนย์สารภี..ที่ขัวมุง..เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ
และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ได้เสด็จมาถึง 4 ครั้งในระยะเวลา 4
ปี จึงควรมีการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อบูรณะ
ปรับปรุง และรวบรวมผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ
ไว้ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์
และสืบทอดองค์ความรู้ต่อไป...
ผู้ให้ข้อมูลและเอื้อเฟื้อภาพประกอบ...1.นายมนัส เศรษฐเสถียร
2.นายพิเชษฐ ภักดี
3.สำนักงานพัฒนาชุมชน
อำเภอสารภี
อำเภอสารภี
ผู้รวบรวมเรียบเรียง..บันทึกคำบอกเล่า..
1.นางอัญชลี ป่งแก้ว
2.นายสมศักดิ์ สันชมภู
3.นายธาดา ธีระวาทิน
วันที่บันทึก....28 มกราคม 2552..