รูปแบบการขับเคลื่อนเครือข่ายขององค์กรชุมชน
...หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านดอกบัว..
ผู้นำเสนอ/เล่าเรื่อง...นายบาล
บุญก้ำ
ตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน
ที่อยู่ บ้านดอกบัว หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านตุ่น อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา
บ้านดอกบัว... เดิมพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่า
เริ่มแรกมีบ้านอยู่ 2 หลังเท่านั้น จากครอบครัวของปู่ติ๊บ กับย่าสมนา ซึ่งเดิมเป็นคนบ้านตุ่นกลาง
เป็นคนทำไร่ใส่สวน เลี้ยงสัตว์ เห็นพื้นที่ป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการประกอบอาชีพ
จึงย้ายเข้ามาอยู่เป็นคนแรก หลังจากนั้นปู่บัวก็ได้ติดตามมาอยู่ด้วย จนเช้าวันหนึ่ง ปู่บัวแกเป็นคนเคี้ยวหมาก จึงลงไปเก็บใบพลู อยู่ๆก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดมาก่อน
คือ เสือได้ตระครุบและกัดปู่บัวจนตาย ณ ที่นั้น ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า บ้านบัว (บ้านดอกบัว)
และบ้านบัว (ดอกบัว)
ยังเป็นหมู่บ้านหลักนักพัฒนา หมู่บ้านพึ่งตนเอง อยู่ในการปกครองของกำนันดีเด่นปี
2551 และเป็นหมู่บ้านที่ผ่าน ระบบ มชช. ปี 2551
ในปีพ.ศ.2539 เกิดปัญหาการตกค้างของสารพิษจากการทำเกษตรกรรม ผู้นำชุมชนมีแนวคิดที่จะลด ละ เลิก สารเคมี
และนำพาหมู่บ้านเข้าสู่โครงการครัวเรือนรณรงค์ปลูกผักปลอดสารพิษ โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มาปรับใช้ เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
และรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์ โดยจัดตั้งกลุ่มข้าวอินทรีย์และขยายผลในรูปแบบกลุ่มสหกรณ์
ผลักดันให้เกิดโรงเรียนชาวนา รณรงค์แก้ไขปัญหาสุขภาพ (กินเค็ม/ดื่มสุรา ฯลฯ) มีการบริหารจัดการน้ำ (อ่างห้วยตุ่น) กั้นน้ำเป็นขั้นบันได
ก่อให้เกิดการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ รณรงค์ครัวเรือนคัดแยกขยะ โดยทุกวันที่ ๗
ของเดือนจะมีรถมารับซื้อขยะที่ผ่านการคัดแยก กิจกรรมเหล่านี้ผู้นำชุมชนได้ร่วมกับชาวบ้าน วิเคราะห์ปัญหาผ่านการทำประชาคมในทุกเดือน
ในส่วนของการบริหารจัดการชุมชน
มีการเปิดเวทีประชาคมถามความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งได้แบ่งการปกครองออกเป็น ๑๐
คุ้ม มีการส่งประกวดหมู่บ้านมั่งมีศรีสุข
รณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ยึดหลักความปรองดองไม่มีการแก่งแย่งชิงดีกัน
ยึดหลักการปกครองใน รูปแบบโมเดลรถยนต์ที่ว่า...“ชาวบ้านถือพวงมาลัย
พ่อหลวงเป็นล้อหน้า ส.อบต เป็นล้อหลัง และขับเคลื่อนไปพร้อมๆ
กัน”
วิธีคิด..วิธีปฏิบัติที่ได้ผล...
วิธีคิด..วิธีปฏิบัติที่ได้ผล...
-ร่วมกันแก้ไขปัญหาจาก “ปัญหาร่วม”
จะประสบความสำเร็จ และได้การมีส่วนร่วมจากชาวบ้าน
เพราะมีการวางเป้าหมายการทำงานร่วมกัน *ยกตัวอย่างกรณีมีคนป่วยต้องการเลือด ส่งคนไปบริจาคเลือดสิบคน
ปรากฏว่าตรวจเจอแต่สารพิษในเลือด เป็นที่มาของการทำโครงการ “ลด ละ เลิก
สารพิษในครัวเรือน”
-น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้จริง
-ให้โอกาสชาวบ้านทุกคน ผ่านเวทีประชาคม เช่น ตกลงกันว่าจะห่อข้าวมากินกันเอง
(ไม่ใช้งบประมาณ) ถ้ามีงานศพ
จะไม่มีเหล้าในวันล้างผาม ในงานหรือกิจกรรมของหมู่บ้าน
จะใช้น้ำเปล่าเท่านั้น อาหารก็จะเป็นอาหารพื้นบ้าน
-บทสรุปของทุกเรื่องต้องมาจากการพูดคุยกัน( อู้จ๋าร่วมกัน)
-ตัวอย่างเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุ
ประเด็นเรื่องโรคความดันสูง จะมีการพูดคุยวางแผนแก้ปัญหาร่วมกันระหว่าง
อสม.กับชาวบ้าน
-ใช้วัสดุท้องถิ่นในการส่งเสริมอาชีพเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปและต่อยอด
-วางระบบการบริหารจัดการน้ำ
(จากอ่างเก็บน้ำห้วยตุ่น)
การปิดเปิดน้ำอย่างเป็นระบบ
เปิดให้พื้นที่ต้นน้ำ 10
วัน พื้นที่กลางน้ำ 10 วัน และพื้นที่ปลายน้ำ 10 วัน หมุนเวียนกันไป
-จัดการขยะให้เป็นเงิน แยกถุงพลาสติก
แยกขวดแก้ว กองรวมกันไว้
ส่วนที่เป็นน้ำแกง เศษอาหารจะเอาไปรวมกันไว้ที่กองทำปุ๋ยหมัก ทุกวันที่ 7 ของเดือน จะมีรถขยะมารับซื้อ
-เรียนรู้และปรับใช้ จากการศึกษาดูงาน
โดยเก็บข้อมูลทั้งหมดมาสู่หมู่บ้านและ นำข้อมูลมาปรับใช้ในหมู่บ้าน
-ให้สิทธิความเท่าเทียมกันในชุมชน
-ใช้เวทีประชาคมหาความต้องการของชุมชน
โดยจัดแบ่งหมู่บ้านเป็น 10
คุ้ม แต่ละคุ้มมีการเลือกคณะกรรมการคุ้มกันเอง
ทำประชาคมหาความต้องการในคุ้มของตนเอง (215 ครัวเรือน)
- ไม่เอาเงินเป็นตัวตั้ง ..ในการทำทุกกิจกรรม/โครงการในชุมชน จะมาจากใจชาวบ้าน
มาจากทุนของชุมชนเอง
ดร.ปรีดี
โชติช่วง..สรุปภาพรวม
รูปแบบเครือข่าย..ในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง..ที่บ้านบัว
การทำงานมีทั้งเครือข่ายผู้นำ เครือข่ายองค์กร เครือข่ายพื้นที่
เครือข่ายการสื่อสาร เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน เครือข่ายเงินทุน เครือข่ายอาชีพ
และเครือข่ายนวัตกรรม...
ผู้บันทึก...
นางอัญชลี ป่งแก้ว นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ
นางสาววชิรญาณ์
แย้มเยื้อน นักทรัพยากรบุคคล
(
เวทีแลกปลี่ยนประสบการณ์งานพัฒนาชุมชน..สู่การสร้างเครือข่ายผู้นำการพัฒนา/โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ ”เครือข่ายผู้นำการพัฒนา:พลังขับเคลื่อนชุมชน”
ประจำปี 2558 วันที่ 2 – 4 มิถุนายน 2558 ห้องประชุมศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง
)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ช่วยแลกเปลี่ยนด้วย..