วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

วันนี้..ไม่ว่าจะทำอะไรสิ่งที่ควรคำนึงคือ การจัดการความรู้(นพพร นิลณรงค์)

วันนี้ผมไปประชุม..ที่ปรึกษาเครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือ..ที่ประชุมหารือกันว่า "กลไกงดเหล้าภาค"ควรจะทำอะไรต่อ? พวกเราก็ได้พูดคุยกันมาเยอะ ถึงยุทธศาสตร์ แนวทาง กิจกรรมต่างๆ......ผมก็เลยตั้งข้อสังเกตไปว่า  "กลไกทำมา..เนิ่นนาน...มีความรู้จากการทำงานอะไรบ้าง? (กลุ่มเป้าหมาย-วิธีการ-เครื่องมือ-แรงจูงใจ..นักดื่มหน้าใหม่-วิธีการบำบัดรักษา-แหล่งจำหน่าย-วิธีการโฆษณา-สิ่งค้นพบใหม่ๆ-เงื่อนไขทางกฏหมาย-วัฒนธรรม ฯ-ลฯ)  ถ้ามีก็มีข้อสังเกตต่อว่า ความรู้ที่มี เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาหรือไม่ แก้อย่างไร? แก้โดยใคร?
              สรุปผมมองว่า วันนี้ไม่ว่าจะทำอะไร..สิ่งที่ควรคำนึงคือ การจัดการความรู้ ว่าจะจัดการมันอย่างใร สร้างทางเลือกได้อย่างใร คนกินเหล้า เพราะมันไม่มีสิ่งตอบสนอง สิ่งที่ท้าทายทางจิตวิทยาวัยรุ่นได้ดีเท่าเหล้าเลย กินเหล้าแล้วมันกล้า มันใหญ่ มันเก่ง มันหลัวก(ฉลาด) มันอะไรอีกหลายอย่าง แต่เราไม่รู้เลยว่าวัยรุ่นเขาคิดอย่างไร? ถ้าเขาไม่กินเหล้าจะให้เขาทำอะไรที่เราสร้างทางเลือกได้หรือไม่?..
               อันนี้เป็นน้ำจิ้มที่คิดไว้ว่าความรู้เราจะรอให้มันเป็นหนังสือเป็นเล่ม ไม่ได้ ขนาดผมเขียนขนาดนี้ยังยาก..ใช้เวลาหลายนาที ถ้าเป็นเล่มจะใช้เวลาขนาดไหน? ทำอย่างไร? เราจะมีเวทีสังเคราะห์ง่ายๆ นำเสนอง่ายๆถึงความสำเร็จ ความภูมิใจ  เสนอข้อค้นพบ อยากอวด คนเห็นด้วยก็หยิบไปใช้เลย...
ปรากฏว่าที่ประชุมเห็นด้วยว่าน่าจะจัดเวทีเสรี อิสระ เรีบยง่ายต่อการเสนอ และการบริโภคอย่างนี้บ้าง...เขาก็จะเอาไปทำ ..โดยไม่ต้องวิจงวิจัย..ก็น่าจะเป็นทางออกได้บ้าง..งและเท่ห์ด้วย...คนเล็กคนน้อยก็จะได้ภูมิใจ ได้อวด ท่าจะม่วนขนาด(คงจะสนุก)......แค่นี้ผมใช้เวลาเกือบ ซาว(20)นาที..ก็ลองนำเสนอมาแค่นี้ก่อน...สวัสดีครับ..
                                                                                              15 กันยายน 2553
ความรู้มันมีหลายมิติ หลายแง่มุม..เหมือนผมถามเรื่องเหล้าในงานศพ..มันมองได้เรื่องการวิเคราะห์พิธีกรรม.มองบทบาทอาจารย์วัด การใส่ปัจจัยเงินทองเชิงเศรษฐกิจ..มองเรื่องคำสวด ...สืบค้นเรื่องเมนูอาหาร..หรือแม้แต่มิติผีสาง ตายแล้วเกิด..กลับไปผ่อ(มอง)งานวิจัยป่าเหมี้ยงสำคัญนัก..เราได้นงคราญมาได้อย่างไร?(เป็นงง..ว่าได้มาอย่างไร?..ดึงผู้หญิงเล็กๆจนกลายเป็นกลุ่มนิ้วก้อย..ขึ้นมาได้อย่างไร? EMPOWER อย่างใด..วันนั้นไม่รู้..แต่วันนี้รู้แล้ว..ก็เอาออกมาเล่า..ใส่ทฤษฎีเข้าไปสักหน้อยมันเกิดจากแรงจูงใจ Motivation อย่างไร..(แอ่นและ เดาะภาษาฝรั่งเหียน้อยก้ได้)..(..ลุงเล็ก..หนานประสิทธิ์..หรือแม้แต่นักดนตรีหนุ่มเจ้าของเพลง...ผีบ้าสวนปรุง..หรือแม้แต่เด็กๆที่วาดรูปนกที่เคยเห็นในป่า..แลกรางวัล 5 บาท...อ.วรเชษฐ์แม่เมาะที่ไปสอนดนตรีพื้นเมือง ) เหล่านี้มันมองได้หลายแบบ..แบบเป็นคนดู เป็นคนประสาน..เป็นคนสนับสนุน..เป็นคนจัดการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงโดยใส่ความรู้ สกัดความรู้ การตื่นรู้ การตื่นตัว...คิดว่าทุกคนมีประสบการณ์กับเหตุการเหล่านี้..
                     เมื่อเจอสถานก่ารณ์ใหม่ ก็ประยุกต์ ปรับใช้..งัดของเก่ามาปัดฝุ่นใส่สี แต่งเติมจะเห็นว่า..อืมห์..!!!! เราก็เป็นนักจัดการความรู้เหมือนกัน(เฮาเฮ้ย)..และเราก็ได้เรียน..ได้บัทึก...ได้สะสม...เราอำนวย...เราได้ประสาน..บอกมาเลย..ว่าคุณเคยเยียะหยังพ่อง(ทำอะไรบ้าง) ทั้งอดีตและปัจจุบัน..แล้วยังภูมิใจกับมัน.....บ่ฮู้ลืม..(ไม่รู้ลืม..)
                                                                                                         16 กันยายน 2553