ลาที่
มิใช่ลาก่อน ;
บทอำลาข้าราชการธรรมดาสามัญผู้เกษียณอายุราชการ
ตลอดเวลาในการทำงานสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน
ผมรู้สึกว่าวันคืนที่นี่ผ่านไปเร็วมาก
วันหนึ่งผมก็รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องกล่าวคำอำลาเวทีแห่งนี้กับคนรอบข้างอย่างเป็นทางการเมื่อวันเกษียณอายุราชการของผมมาถึง
ชีวิตในสำนักงานและงานภาคสนามที่จังหวัดเชียงราย
ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่ผมได้เลือกมาอยู่ทำงานระหว่างที่นี่กับจังหวัดน่านอีกจังหวัดหนึ่ง
ขณะที่ทำงานในส่วนกลางกรุงเทพนั้น ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังเลย แม้แต่น้อย
ที่เชียงราย
ผมสัมผัสได้กับความสุขความอบอุ่นที่พอจะรู้สึกได้
ด้านหนึ่งเพราะผมยังมีเพื่อนร่วมงาน มิตรสหายที่ดีอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีระบบของเจ้านายคอยร่วมทำงาน
ซึ่งบางครั้ง หรือในอดีต
คนเหล่านี้ก็ร่วมฝันกับผมบ้าง ปฏิเสธความฝันผมบ้าง
มีปฎิกริยาที่รุนแรงต่อผมบ้าง ผมก็ไม่ว่าอะไร
ประการต่อมา อากาศ บรรยากาศสิ่งแวดล้อมที่เชียงรายช่างเป็นใจ
ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย สนุก ได้พบหาผู้คน มีเวลาอ่านหนังสือดีๆ ออกกำลังกาย
ท่องเที่ยว ตื่นตัวพร้อมทำงานท้าทายตามสไตล์ของผมบ้างหรืออย่างบูรณาการร่วมกันบ้าง ที่สำคัญทำให้ผมมีโอกาสทำงานช่วยเหลือ
แบ่งปันแรงกาย ความรู้ความสามารถที่พอจะมีแก่ผู้อื่นในสังคมนี้ได้
ผมยังมีความหวังอยู่เช่นเดิมว่า
คนอื่นๆที่ยังคิดเหมือนผมบ้าง และต่างบ้าง หากยังไม่ท้อแท้และหยุดคิดเรื่องการทำงานร่วมมือกันแบบจริงจัง
แบบมองเห็นอนาคตของสังคมส่วนใหญ่
คงทำให้สังคมนี้มีความสงบสุข น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ประมาณ
๓๐ ปีของการทำงานเยี่ยงข้าราชการธรรมดาสามัญชั้นผู้น้อย เมื่อถึงวันนี้ผมก็พอใจแล้ว
เพราะผมลองคิดเชิงทุนทางสังคมถึงสิ่งที่ผมได้รับจากหน่วยงานและจากสังคมนี้ซึ่งได้ส่งมอบให้ผม ทั้งแบบตั้งใจและมิได้ตั้งใจก็ตาม ก็นับว่ามีมากกว่าที่จะตีราคาเป็นเงินได้
ดังนั้นผมจึงไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนอีกหลายคน ที่ผ่านมาการทำงานของผมไม่มีอำนาจพิเศษคอยช่วยเหลือ
แต่สิ่งที่ผมได้รับจนสรุปได้เป็นความพอใจได้นั้น บางทีอาจเป็นเพราะ
ผมยังมีความเชื่อเรื่องความดีงาม ความซื่อสัตย์ยุติธรรมอยู่บ้าง หรืออีกด้านหนึ่ง อาจเป็นเพราะผมมีความกล้าหาญพอที่จะแสดงตัวตน
และจุดยืนเชิงสังคม แม้บ่อยครั้งต้องผ่านประสบการณ์ที่เจ็บปวดผมก็อดทนได้ อย่าตำหนิผมเลยนะแม้ว่าที่ผ่านมาท่านจะเห็นพฤติกรรมแปลกๆของผมบ้าง
เพราะผมถูกฝึกให้รู้จักการช่วยเหลือตัวเอง
เรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าคิดถึงการพึงพาผู้อื่น หยิ่งในศักดิ์ศรี ด้วยบรรพบุรุษของผมก็พร่ำ สั่งสอนผมไว้
ความรู้สึกสุข
หรือทุกข์ใดๆของผมในวันนี้ หากจะมีแบบใดในวันพรุ่งนี้ ไม่มีใครคอยจัดให้เป็นพิเศษ
นอกจากคิดว่าได้พยายามทำงานหนักเพื่อการพัฒนาตัวเองก็เท่านั้น ผมเห็นสิ่งท้าทายข้างหน้าอยู่ตลอดเวลาในการทำงานช่วยเหลือตนเองโดยไม่ต้องพึงพาคนอื่นมากนัก และหากมีพลังเหลือเฟือก็ไม่เคยลืมแบ่งปันให้คนอื่น
หรือด้อยโอกาสกว่าผมในสังคมนี้ การใช้ชีวิตในองค์กรนี้ บางทีผมรักจะค้นหาว่า
หน่วยงานมีอะไร หรือช่องทางไหนที่ผมจะช่วยหน่วยงานได้บ้าง มากกว่าที่จะคอยคาดหวังอะไรมากมายจนเกินความเข้าใจตัวเอง
อีกครั้ง
ขอขอบคุณน้องๆ หรือพี่ตามลำดับความดีที่ผมนิยามเรียก ถึงเวลาลาโรงสำหรับผมแล้ว
ไม่มีสิ่งใดที่ผมจะขออโหสิจากท่านอีก เพราะปรกติผมไม่คิดร้ายใครจึงคิดว่าไม่จำเป็น
อีกทั้งผมไม่ต้องการขอบคุณอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
ไม่ต้องการขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นักการเมืองหรือผู้ใดเป็นพิเศษ
แต่ขอขอบคุณเพื่อนร่วมงาน
ผู้ร่วมอุดมการณ์ ผู้ร่วมสุขและร่วมทุกข์ในการทำงานที่จังหวัดเชียงราย หรือที่อื่นๆก็ตาม ที่ทำให้เราได้พบกัน เข้ามาสัมพันธ์เกี่ยวข้องและได้เรียนรู้กันด้วยภาระหน้าที่การงานครั้งหนึ่ง ขอสัญญาว่าที่ชีวิตที่เหลือ
จะยาวหรือสั้นก็ตาม นับจากวันพรุ่งนี้ เราจะช่วยกันดูแลสังคมให้เหมือน
หรือเท่าๆกับที่เราพยายามทำกับตัวเราต่อไป คิดถึงผมบ้างบางเวลา
ดูแลสุขภาพของท่านและคนข้างเคียงและสู้ต่อไปกับงานหนักที่รออยู่ข้างหน้า
ขอคารวะด้วยรักและนับถือ
บุญส่ง เวศยาสิรินทร์ ณ วันศุกร์ที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
บ้าน: ๑๐๗
หมู่ ๖ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โทร. ๐๕๓-๕๖๐๒๔๓, ๐๘๖-๗๒๘๓๗๖๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ช่วยแลกเปลี่ยนด้วย..