เจ้าของความรู้ : ดวงธิดา อำนาจผูก
นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ
18 ปีด้วยอริยาบถเดิมๆ ซ้ำๆกับการนั่งทำงานบนโต๊ะ ในบทบาทของเจ้าหน้าที่การเงิน ทำให้ผู้เล่าป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม และในปี 2549 เกิดอุบัติเหตุจากการยกของหนัก ผู้เล่าได้ยินเสียงกระดูกต้นคอลั่นดัง..และอย่างเจ็บปวด ต้องเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลด้วยการกินยาและกายภาพบำบัดเป็นเวลา 2 ปี ก่อนเข้ารับการผ่าตัดกระดูกคอ
ในปี 2551 และยังคงต้องรับยาจากโรงพยาบาลมากินอย่างต่อเนื่อง..
จากปัญหาสุขภาพของตัวเองและการป่วยไข้ของคนในครอบครัวบ่อยๆ จึงสนใจศึกษาค้นคว้าการดูแลรักษาสุขภาพจากเอกสารตำราและอินเตอร์เนต พบว่าเราสามารถกินอาหารเป็นยา..แทนที่จะกินยาเป็นอาหาร เหมือนที่กำลังเป็นอยู่..อีกทั้งพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านต่างมีสรรพคุณเป็นยาทั้งสิ้น
คลินิกแพทย์แผนไทย.. จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง...เลือกที่จะใช้อาหารในการบำบัดโรค โดยคุณหมอบอกว่าผู้เล่าเป็นคนธาตุไฟ ควรกินอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ผักบุ้ง ตำลึง มะระ เป็นต้น ประกอบกับการค้นอ่านเพิ่มเติม..ใบโหระพากินสดๆทุกวัน เป็นยาครอบจักรวาล..ขิงข่าตะไคร้ในบ้าน..ต่างมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ฯลฯ จึงได้เริ่มลงมือประกอบอาหารจากพืชผักสมุนไพร ที่สามารถบำบัดโรค/บำรุงสุขภาพ ทั้งจากสวนครัวในบ้านและตลาดใกล้บ้าน
ทำง่ายๆ.. น้ำตะไคร้สมุนไพร..แก้ปวดหลังปวดเอว..ขับลม..
กลายเป็นน้ำยาสมุนไพรประจำบ้านและแบ่งปันประสบการณ์มาเผยแพร่ ทำน้ำสมุนไพรในการจัดเลี้ยง..ให้ผู้เข้าอบรมของสำนักงานฯ
1.น้ำเปล่า 1 หม้อ+ตะไคร้ที่ทุบแล้ว 2- 3 หัว ตั้งไฟต้มพอน้ำเดือดซักพักก็หยุดไฟ เพื่อรักษาคุณค่าสารอาหารในตะไคร้
2.ถ้าอยากให้มีรสหวาน ใช้น้ำตาลกรวด(ไม่หวานแหลมเหมือนน้ำตาลทราย)
3.ใส่ดอกอัญชัญ สด 1 กำมือ(ถ้าเป็นดอกแห้งเอาแค่หยิบมือ)..ได้น้ำตะไคร้สีน้ำเงิน
4.ถ้าอยากได้น้ำตะไคร้สีม่วง..ให้บีบมะนาวลงไปผสม
นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ
18 ปีด้วยอริยาบถเดิมๆ ซ้ำๆกับการนั่งทำงานบนโต๊ะ ในบทบาทของเจ้าหน้าที่การเงิน ทำให้ผู้เล่าป่วยด้วยโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม และในปี 2549 เกิดอุบัติเหตุจากการยกของหนัก ผู้เล่าได้ยินเสียงกระดูกต้นคอลั่นดัง..และอย่างเจ็บปวด ต้องเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลด้วยการกินยาและกายภาพบำบัดเป็นเวลา 2 ปี ก่อนเข้ารับการผ่าตัดกระดูกคอ
ในปี 2551 และยังคงต้องรับยาจากโรงพยาบาลมากินอย่างต่อเนื่อง..
จากปัญหาสุขภาพของตัวเองและการป่วยไข้ของคนในครอบครัวบ่อยๆ จึงสนใจศึกษาค้นคว้าการดูแลรักษาสุขภาพจากเอกสารตำราและอินเตอร์เนต พบว่าเราสามารถกินอาหารเป็นยา..แทนที่จะกินยาเป็นอาหาร เหมือนที่กำลังเป็นอยู่..อีกทั้งพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านต่างมีสรรพคุณเป็นยาทั้งสิ้น
คลินิกแพทย์แผนไทย.. จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง...เลือกที่จะใช้อาหารในการบำบัดโรค โดยคุณหมอบอกว่าผู้เล่าเป็นคนธาตุไฟ ควรกินอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ผักบุ้ง ตำลึง มะระ เป็นต้น ประกอบกับการค้นอ่านเพิ่มเติม..ใบโหระพากินสดๆทุกวัน เป็นยาครอบจักรวาล..ขิงข่าตะไคร้ในบ้าน..ต่างมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ฯลฯ จึงได้เริ่มลงมือประกอบอาหารจากพืชผักสมุนไพร ที่สามารถบำบัดโรค/บำรุงสุขภาพ ทั้งจากสวนครัวในบ้านและตลาดใกล้บ้าน
ทำง่ายๆ.. น้ำตะไคร้สมุนไพร..แก้ปวดหลังปวดเอว..ขับลม..
กลายเป็นน้ำยาสมุนไพรประจำบ้านและแบ่งปันประสบการณ์มาเผยแพร่ ทำน้ำสมุนไพรในการจัดเลี้ยง..ให้ผู้เข้าอบรมของสำนักงานฯ
1.น้ำเปล่า 1 หม้อ+ตะไคร้ที่ทุบแล้ว 2- 3 หัว ตั้งไฟต้มพอน้ำเดือดซักพักก็หยุดไฟ เพื่อรักษาคุณค่าสารอาหารในตะไคร้
2.ถ้าอยากให้มีรสหวาน ใช้น้ำตาลกรวด(ไม่หวานแหลมเหมือนน้ำตาลทราย)
3.ใส่ดอกอัญชัญ สด 1 กำมือ(ถ้าเป็นดอกแห้งเอาแค่หยิบมือ)..ได้น้ำตะไคร้สีน้ำเงิน
4.ถ้าอยากได้น้ำตะไคร้สีม่วง..ให้บีบมะนาวลงไปผสม
ผลการเรียนรู้ :
“ทุกวันนี้ ไม่ได้ดื่มแต่น้ำสมุนไพรอย่างเดียว แต่ทานอาหารที่เป็นสมุนไพรอื่นๆ ด้วย..2 ปีที่ผ่านมา คนในครอบครัวมีสุขภาพดีไม่ป่วยไข้บ่อยๆเหมือนแต่ก่อน..และตัวเองก็ไม่ต้องกินยารักษาหมอนรองกระดูกจากโรงพยาบาลแล้ว..”
“เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองได้ จากพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านใกล้ตัว..ไม่ต้องไปสรรหาหรือเสียค่าใช้จ่ายซื้ออาหารเสริมราคาแพงลิบมาทาน..เป็นการดูแลรักษาสุขภาพ..แบบพอเพียง..”
อัญชลี ป่งแก้ว ..ผู้บันทึกเรียบเรียง
10 มกราคม 2555
“ทุกวันนี้ ไม่ได้ดื่มแต่น้ำสมุนไพรอย่างเดียว แต่ทานอาหารที่เป็นสมุนไพรอื่นๆ ด้วย..2 ปีที่ผ่านมา คนในครอบครัวมีสุขภาพดีไม่ป่วยไข้บ่อยๆเหมือนแต่ก่อน..และตัวเองก็ไม่ต้องกินยารักษาหมอนรองกระดูกจากโรงพยาบาลแล้ว..”
“เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองได้ จากพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านใกล้ตัว..ไม่ต้องไปสรรหาหรือเสียค่าใช้จ่ายซื้ออาหารเสริมราคาแพงลิบมาทาน..เป็นการดูแลรักษาสุขภาพ..แบบพอเพียง..”
อัญชลี ป่งแก้ว ..ผู้บันทึกเรียบเรียง
10 มกราคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ช่วยแลกเปลี่ยนด้วย..